[3] เรียนพื้นฐาน JavaScript ตอน การกำหนดเงื่อนไข
ตรรกะ
ก่อนจะเริ่มเนื้อหา ต้องขอแนะนำสัญลักษณ์ของตรรกะกันก่อน
สัญลักษณ์ | ความหมาย | ตัวอย่าง | ผลลัพธ์ |
> | มากกว่า | 9 > 0 | true |
< | น้อยกว่า | 0 < -5 | false |
>= | มากกว่าหรือเท่ากับ | 5 >= 2 | true |
<= | น้อยกว่าหรือเท่ากับ | 10 <= 10 | true |
=== | เท่ากับ | “5” == 5 | true |
!== | ไม่เท่ากับ | “5” != 5 | false |
&& | และ | true && false | false |
|| | หรือ | true || false | true |
! | ตรงกันข้าม | !true | false |
&& และ
A | B | A && B |
TRUE | TRUE | TRUE |
TRUE | FALSE | FALSE |
FALSE | TRUE | FALSE |
FALSE | FALSE | FALSE |
|| หรือ
A | B | A || B |
TRUE | TRUE | TRUE |
TRUE | FALSE | TRUE |
FALSE | TRUE | TRUE |
FALSE | FALSE | FALSE |
If / Else / Else if
การกำหนดเงื่อนไขแบบ if / else จะเป็นรูปแบบ ถ้าเป็นแบบนี้…ทำอย่างนี้นะ ไม่งั้นก็ทำอย่างนี้แทนนะ… เหมือนฝากเพื่อนซื้อก๋วยเตี๋ยว ถ้ามีเส้นเล็กสั่งเลย ถ้าไม่มีงั้นสั่งเส้นใหญ่ ถ้าไม่มีอีกงั้นสั่งบะหมี่ ถ้าไม่มีอีกก็ไม่กิน! 555 ประมาณนี้
- if ถ้า…
- else ไม่งั้นก็…
- else ถ้าไม่งั้นก็…
if (condition) {
// run this code
} else {
// run this code
}
//ลองดูโครงสร้างแบบภาษไทย
ถ้า (เงื่อนไขตรงนี้เป็นจริง) {
ให้รันโค้ดนี้
}
ไม่อย่างงั้นก็ {
รันโค้ดนี้แทน ถ้าข้างบนไม่จริง
}
ลองมาดูตัวอย่างการใช้งานจริงของ if/else เลยดีกว่า
if (2 > 0){
console.log("Awesome!");
}
else {
console.log("Nooooooooooo!");
}
//คืนค่า Awesome! ออกมา เพราะ 2 > 0 เป็น true
ตัวอย่างที่ซับซ้อนขึ้น
var color = "blue";
if (color === "Black"){
console.log("Black is cool!");
}
else if (color === "pink"){
console.log("Pink is great!");
}
else {
console.log("I love blue!!");
}
//ปริ้น I love blue!! ออกมา